จากนักเขียน LALIETTE
สวัสดีค่ะทุกคน เรา Laliette หรือ ละเลียด นะคะ บางคนอาจจะพอคุ้นนามปากกาอยู่บ้าง หรือถ้าเราเพิ่งเคยเจอกันครั้งแรก จากนี้ไปก็ขอฝากนามปากกาและผลงานด้วยนะคะ (โค้งเก้าสิบองศา)
เรื่องนี้เป็นนิยายขนาดยาวเรื่องที่สองแล้วค่ะ หลังจากปิดเล่ม When We Fall in Love ไปตั้งแต่ต้นปี 2564 นอกจากโปรเจ็กต์เรื่องสั้น เรื่อง ในสีนั้น ฉันเก็บเธอเอาไว้ ที่ทางลิลลี่เฮ้าส์เก็บเรามาอีกที ก็ไม่ได้ข้องเกี่ยวกับงานเขียนอีกเลย ช่วงนั้นตั้งใจปลดระวางตัวเองเพื่อที่จะกลายสภาพเป็นนักอ่านแทนค่ะ ตอนแรกก็ดีใจมาก ๆ ที่ได้มีเวลานอนอ่านอย่างเต็มที่สักที แต่นั่นล่ะค่ะ…สุดท้ายก็คิดถึงนักอ่าน คิดถึงคอมเมนท์ของเราขึ้นมา ก็เลยรู้สึกว่า เอาล่ะ เห็นทีจะสมควรแก่เวลา ในที่สุดก็คลอดเรื่องนี้มาจนได้ !
สำหรับคนที่ติดตาม เรื่อง Do you ship? ใครชิปกันคู่นั้นเขาแต่งกันแล้ว มาตั้งแต่ในเว็บและอุดหนุนรูปเล่มครั้งนี้ด้วย เราต้องขอบคุณมาก ๆ ที่อยู่ด้วยกันในช่วงเวลาหลายเดือนมานี้โดยไม่ปล่อยให้เราเหงาเลย ซาบซึ้งมาก ๆ ค่ะ จริง ๆ นะ ไม่ได้พูดเกินจริงแม้แต่คำเดียวค่ะ ! แต่ในขณะเดียวกันบางคนอาจจะคาดหวังว่า ถ้ารวมเล่มคงจะได้อ่านยาวจนจบเรื่องเลย …ขอแสดงความเสียใจด้วยนะคะ พอดีเราวางโครงเรื่องไว้ค่อนข้างยาว (เพราะอยากอยู่กับทุกคนนาน ๆ ไงล่ะ !) แต่เนื่องด้วยความเร็วและพลังในการเขียนเราไม่ได้มีมากพอเพราะยังมีงานประจำและภารกิจต่าง ๆ ในชีวิต ทำให้เรายึดงานเขียนเป็นงานอดิเรก
เป้าประสงค์ในการเขียนที่เรายึดมั่นมาตลอดคือ เขียนเพราะเรารัก เราชอบ และเลือกเขียนแต่สิ่งที่เราอยากอ่าน ฉะนั้นทุกอักษรที่เขียนขึ้นมา เราทำอย่างตั้งใจเต็มที่ เราจึงดีใจมาก ๆ เวลาที่เห็นว่าพวกคุณอ่านเรื่องนี้แล้วรู้สึกสนุกไปด้วยกันกับเรา และสำหรับผลงานเรื่องนี้ เรารู้สึกสนุกกับมันมาก ๆ เพราะนอกจากเนื้อเรื่อง เราเองก็ได้มีส่วนร่วมในการผลิตทุกรายละเอียดเลยค่ะ ขอบคุณทางลิลลี่เฮาส์มาก ๆ ที่เปิดโอกาสให้เราได้ออกความคิดเห็นในกระบวนต่าง ๆ ไม่ว่าจะงานอาร์ตของรูปเล่ม รวมถึงช่วยสนับสนุนเพลงประกอบนิยาย
ใช่ค่ะทุกคน เพลงประกอบนิยาย !! ด้วยความที่เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับวงการบันเทิงและสายงานเพลงพอสมควร หลังจากที่เราคิดพล็อตได้ เราก็กำเงินไปคุยกับสตูดิโอทำเพลงเลยค่ะ ทั้งที่เพิ่งเขียนได้แค่ตอนแรกด้วยซ้ำ (ฮา) แต่ทางโปรดิวเซอร์ก็เข้าใจเรานะคะ ค่อย ๆ ทำงานร่วมกันตามบรีฟแม้ว่าเนื้อเรื่องจะยังไม่เป็นรูปร่าง
ส่วนงานอาร์ต เนื่องจากเราชอบลายเส้นเขามากเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เน้นว่ามากแบบตะโกน !!! เราจึงรู้สึกโชคดีมาก ๆ ที่ทางคุณนักวาดตกลงรับงานเรา เราซาบซึ้งและขอบคุณคุณนักวาดอยู่เสมอเลยค่ะ ขอบคุณที่ทำงานอย่างหนักและเป็นกำลังสำคัญในการสร้างสรรค์ภาพสวย ๆ ให้กับโปรเจ็กต์นี้นะคะ
จะบอกว่าจังหวะของเรื่องนี้ลงตัวไปหมดเลยค่ะ ในช่วงที่เริ่มเขียนได้ประมาณสองตอน ก็ได้มีโอกาสพูดคุยกับคุณบรรณาธิการของลิลลี่เฮ้าส์พอดี สบโอกาสจึงได้พูดคุยถึงโปรเจ็กต์นี้ เราจึงบอกไปว่าถ้าเขียนครบสิบตอนเมื่อไรจะส่งเรื่องไปให้พิจารณา
อย่างไรก็ตามสิบตอนแรกก็สามารถเข็นออกมาได้อย่างรวดเร็ว ! เพราะมีแรงผลักดันชั้นดีจากเมล็ดที่เราหว่านไว้เพื่อกระตุ้นและสนองความต้องการตัวเราเองอย่างภาพตัวละครและเพลงประกอบนิยาย ดังนั้นทุกครั้งที่เมล็ดเริ่มเติบโต ทุกครั้งที่ได้ยินเดโม่เพลงในแต่ละดราฟต์ หรือได้เห็นภาพสเกตซ์ที่ค่อย ๆ พัฒนาจากขาวดำ เป็นภาพสี เราก็สามารถเข็นเรื่องออกมาได้ไวยิ่งกว่าไฟไหม้ก้น 55555
และหลังจากที่เรื่องนี้ผ่านการพิจารณา ทางลิลลี่เฮาส์ก็ช่วยสนับสนุน ร่วมลงทุนและสานต่อโปรเจ็กต์ต่าง ๆ ที่เราเริ่มต้นไว้ ทั้งยังช่วยประสานงานให้จนได้มีโอกาสได้ร่วมงานกับคุณ JeanHz และคุณ Aisha ซึ่งเป็นโคฟเวอร์ยูทูปเบอร์และวีทูปเบอร์ชื่อดัง(มาก ๆ !) ทั้งคู่เป็นคนที่เราชื่นชมและชื่นชอบผลงานอยู่แล้ว ดังนั้นจึงดีใจและตื่นเต้นมาก ๆ เลยค่ะ ขอบคุณทางลิลลี่เฮ้าส์มาก ๆ ที่ช่วยผลักดันองค์ประกอบทุกอย่างภายในเรื่อง จนเรื่องนี้คลอดเล่มหนึ่งออกมาเป็นรูปเป็นร่างได้อย่างสมบูรณ์
เพราะเราสนุกกับมันมาก ๆ เราเองก็หวังว่าทุกคนจะคอยสนับสนุนโปรเจ็กต์นี้ และร่วมเดินเคียงข้าง ซานเจีย กับ ณชา ไปจนสุดทางเช่นกันนะคะ
เกี่ยวกับตัวละครเพิ่มเติม ♥ ~ :
ชื่อ–สกุล ซานเจีย (ลู่) วิรุฬหเศรษฐ์ ชื่อสเตจ ซานเจีย
เกิดวันที่ 5 กุมภาพันธ์ อายุ 23 เชื้อชาติ จีน สัญชาติ ไทย
กรุ๊ปเลือด O MBTI : ESFP-A
ส่วนสูง 164 น้ำหนัก 44
ระยะเวลาฝึก ไม่แน่ใจ สังกัดค่าย อิสระ
ภาษาที่พูดได้ จีน ไทย อังกฤษ
งานอดิเรก ฟังเพลง เต้น ช็อปปิ้ง(ว่าง ๆ ชอบเข้าแอพฯซื้อของออนไลน์ หรือไม่ก็ไปเดินดูคอลเลคชันออกใหม่ในช็อปค่ะ)
ความสามารถพิเศษ เต้นได้ทุกแนว ออกแบบท่าเต้นได้
ความสนใจช่วงนี้ กินเผ็ดค่ะ !! ช่วงนี้เวลาที่อยู่บ้านแล้วไม่รู้จะกินอะไรดีก็อยากลองกินมาม่าเผ็ดทุกยี่ห้อ แล้วเปรียบเทียบว่าแบรนด์ไหนอร่อยที่สุด
Motto ลองกินมาม่าเผ็ดแล้วก็ยังไม่เจอซองไหนเด็ดเท่าเราเลยค่ะ

ลองกินมาม่าเผ็ดแล้วก็ยังไม่เจอซองไหนเด็ดเท่าเราเลยค่ะ
ซานเจีย (ลู่) วิรุฬหเศรษฐ์
ประวัติ
ชื่อ–สกุล ณชา เศวตติกุล ชื่อสเตจ ณชา
เกิดวันที่ 14 มีนาคม อายุ 23 เชื้อชาติ ไทย สัญชาติ ไทย
กรุ๊ปเลือด A MBTI : INFJ-A
ส่วนสูง 167 น้ำหนัก 45
ระยะเวลาฝึก 4 ปี สังกัดค่าย SAS
ภาษาที่พูดได้ ไทย อังกฤษ
งานอดิเรก ฟังเพลง ฝึกร้องเพลง บอดี้เวท เล่นโยคะ
ความสามารถพิเศษ สามารถเรียบเรียงทำนองเองได้ เล่นดนตรีได้สี่ชิ้น เปียโน กีตาร์โปร่ง ฟลูต ไวโอลิน ค่ะ
ความสนใจช่วงนี้ อยากลงคอร์สพิลาทิส อ่านหนังสือให้หลากหลายมากขึ้น หาประสบการณ์หรือออกไปเที่ยวมากขึ้นเพื่อหาแรงบันดาลใจในการเขียนเนื้อเพลงค่ะ
Motto ไม่เป็นไรที่จะร้องไห้ ไม่เป็นไรที่จะไม่เข้มแข็ง ไม่เป็นไรที่จะยังไม่รู้ว่าต้องการอะไรหรืออยากจะทำอะไร ให้เวลากับตัวเอง ทำความรู้จักตัวเองให้มากเข้าไว้ เพราะตัวเองคนนั้นคือคนที่จะสามารถโอบกอดคุณและเข้าใจคุณได้ดีที่สุด

ไม่เป็นไรที่จะร้องไห้ ไม่เป็นไรที่จะไม่เข้มแข็ง ไม่เป็นไรที่จะยังไม่รู้ว่าต้องการอะไรหรืออยากจะทำอะไร ให้เวลากับตัวเอง ทำความรู้จักตัวเองให้มากเข้าไว้ เพราะตัวเองคนนั้นคือคนที่จะสามารถโอบกอดคุณและเข้าใจคุณได้ดีที่สุด
ณชา เศวตติกุล
สัมภาษณ์พิเศษจากทีมงานในรายการ Starry Stage
ซานเจีย
Q : มีเด็กฝึกในรายการคนไหนที่อยากจะแนะนำให้กับผู้ชมเป็นพิเศษไหมคะ
ซานเจีย : ณชา ณชาสิ ณชาแน่นอนค่ะ
Q : โอ้โฮ กระตือรือร้นกับคำตอบมากเลยนะคะเนี่ย ทำไมถึงแนะนำณชาล่ะคะ
ซานเจีย : เพราะเป็นคนโหงวเฮ้งดีค่ะ
Q : … คะ ?
ซานเจีย : เห็นด้วยไหมคะ ไม่คิดอย่างนั้นเหรอ ?
Q : เอ่อ… ค่ะ
ซานเจีย : ล้อเล่นนะคะ (หัวเราะ) จริง ๆ ส่วนตัวซานรู้สึกว่าณชาเป็นคนที่โดดเด่นบนเวทีมาก ด้วยความสามารถ ศักยภาพ เอกลักษณ์ ตัวตน หรือความตั้งใจจริงต่อการแสดง อะไรหลาย ๆ อย่างเหล่านี้มันปรากฏออกมาทุกครั้ง ฉะนั้นเวลาที่ฉันมองคนคนนี้ฝึกฝนจนได้ผลลัพธ์ที่น่าขนลุกบนสเตจทุกครั้งแล้วมันเลยทำให้รู้สึกว่า เฮ้อ ดีจัง หวังว่าเขาจะได้เข้าไปถึงรอบไฟนอลไลน์นะ อะไรอย่างนี้ค่ะ
Q : เพราะอย่างนี้ในสเตจคัดเกรดก็เลยสละที่นั่งตัวเองให้เขาอย่างไม่ลังเลเลยใช่ไหมคะ
ซานเจีย : อา… งั้นมั้งคะ (หัวเราะ)
Q : ถ้าบอกว่าณชาเหมาะสมกับไฟนอลไลน์ แล้วได้ตั้งเป้าหมายให้ตัวเองไว้บ้างไหมว่าอยากจะเข้าไปจนถึงรอบไหน
ซานเจีย : เราเองก็อยากจะอยู่ให้นานที่สุดเท่าที่ความสามารถเราจะไปถึง พูดตามตรงตอนแรกก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะอยู่ในรายการนาน แต่พอเข้ามาแล้วได้ทำความรู้จักกับคนอื่น ๆ แล้วกลับรู้สึกว่าไม่อยากจะให้ช่วงเวลาเหล่านี้จบลงเร็วเกินไป ไม่อยากให้เพื่อนหรือเราต้องจากไปเร็วเลย
Q : แล้วคิดว่าตัวเองเหมาะสมที่จะได้เข้าไฟนอลไลน์ไหม
ซานเจีย : ไม่รู้สิคะ… เป้าหมายไฟนอลไลน์นี้ซานว่าน่าจะขึ้นอยู่กับผู้ชมแล้วค่ะว่าเขาจะชอบการแสดงของเราหรือเปล่า แล้วเขาจะยินดีสนับสนุนเราหรือยินดีส่งให้เราไปถึงจุดนั้นได้มากแค่ไหน
Q : ในฐานะเด็กฝึกอิสระ รู้สึกมีข้อจำกัดหรือด้อยกว่าคนอื่นที่สังกัดค่ายไหมคะ
ซานเจีย : สำหรับซานแล้วไม่นะคะ คงเพราะเราโชคดีด้วยเพราะได้เจอเพื่อนตั้งแต่วันแรก เลยทำให้ปรับตัวง่ายขึ้นมาก ๆ
Q : ตั้งแต่เข้ารายการมารู้สึกว่าสนิทกับใครมากที่สุดคะ
ซานเจีย : มาร์ลินค่ะ
Q : ไม่ใช่ณชาเหรอคะ (แซว)
ซานเจีย : กับณชาก็สนิทค่ะ (หัวเราะ) แค่สนิทกันคนละแบบ คือมาร์ลินเป็นคนแรกที่เราเจอตั้งแต่เข้ารายการได้เป็นรูมเมทแล้วก็เพื่อนร่วมคลาสตั้งแต่ช่วงก่อนคัดเกรดแล้วก็รู้สึกว่าเราเข้ากันได้ดี ส่วนณชาคือซานก็ชื่นชมเขามาตลอด ถ้ามีโอกาสเราก็อยากจะสนิทกับเขาอยู่แล้ว
Q : ตั้งแต่เข้ารายการมาจนถึงตอนนี้รู้สึกประทับใจช่วงไหนในรายการมากที่สุดคะ
ซานเจีย : ช่วงหลังจบสเตจแรกค่ะ หลังจากที่เราทุกคนคร่ำเครียดกับการแสดงมาตลอด พอได้มีเวลาพัก ได้ทำความรู้จัก ได้เล่นกับคนอื่น ๆ แล้วรู้สึกว่าเป็นช่วงที่สนุกมากเลยค่ะ ถึงแม้ว่าซานจะขาพลิกจนต้องพันข้อเท้าไว้ ทำอะไรไม่สะดวก แต่เพื่อน ๆ รวมทั้งทีมงานก็คอยช่วยเหลือไม่ให้เรารู้สึกว่าเป็นส่วนเกินของกิจกรรมอะไรอย่างนี้ เป็นช่วงเวลาที่รู้สึกว่าอบอุ่นจริง ๆ ค่ะ
Q : อยากฝากอะไรถึงผู้ชมทิ้งท้ายไหมคะ
ซานเจีย : ทุกคนในรายการทุ่มเทกับการแสดงมาก ก็หวังว่าทุกคนจะคอยสนับสนุนพวกเราไปตลอดเส้นทางนะคะ หวังว่าเราจะได้เจอกันในสเตจถัดไปค่ะ บ๊ายบาย

ณชา
Q: มีเด็กฝึกในรายการคนไหนที่อยากจะแนะนำให้กับผู้ชมเป็นพิเศษไหมคะ
ณชา : …. (นิ่ง)
10 วินาทีผ่านไปสำหรับ (ณชา.jpg)
Q : เอ่อ…ถ้าไม่มีคนในใจ จะแนะนำตัวเองก็ได้นะคะ—
ณชา : จริง ๆ ก็มีอยู่คนนึงค่ะ
Q : โอ้ คนนั้นคือใครคะ
ณชา : ซานเจียค่ะ ฉันรู้สึกว่าความสามารถของเขาเหนือความคาดหมายไปมาก
Q : เหนือความคาดหมาย ? ถ้าอย่างนั้นความประทับใจแรกที่เห็นเขาแล้วรู้สึกยังไงคะ
ณชา : ตอนแรก…ไม่รู้สึกอะไรเลยค่ะ ค่อนไปทางไม่ค่อยชอบสักเท่าไร
Q : มีมูลเหตุอะไรหรือเคยมีเรื่องกระทบกระทั่งอะไรกันมาก่อนหรือเปล่า
ณชา : ก่อนจะขึ้นสเตจคัดเกรด รายการให้เข้าฝึกซ้อมแบบปิดกันก่อนใช่ไหมคะ คือตอนนั้นฉันแค่รู้สึกว่าจากบุคลิกของเขา นิสัยเราน่าจะเข้ากันไม่ได้น่ะค่ะ เป็นไปได้ก็อยู่ห่าง ๆ กันจะดีกว่า แต่หลังจากที่เห็นความสามารถบนเวทีของเขาเข้าจริง ๆ ก็รู้สึกว่าเขาเป็นคนที่มีความสามารถมากคนหนึ่ง… ฉันไม่รู้ว่ากระแสข้างนอกตอนนี้เป็นยังไงบ้าง แต่ฉันเห็นเขาตั้งใจซ้อมและทำออกมาได้ดีขนาดนี้ ก็อยากให้เขาได้รับโอกาสมากขึ้นค่ะ
Q : แล้วตอนที่เขาสละที่นั่งให้ในสเตจคัดเกรด ตอนนั้นรู้สึกยังไงคะ
ณชา : ก็…ตกใจนิดหน่อยค่ะ ไม่คิดว่าเขาจะทำอย่างนั้น (หัวเราะ)
Q : แล้วความสัมพันธ์ตอนนี้เป็นยังไงบ้างหลังจากได้เป็นรูมเมทกันระยะหนึ่ง
ณชา : ไม่ได้แย่อย่างที่คิดไว้ค่ะ (ยิ้ม) แตกต่างจากที่คิดไปมากพอสมควร ซานเจียเขาค่อนข้างกระตือรือร้น นิสัยตรงข้ามกับฉันหลายอย่างแต่ก็ไม่ได้รำคาญนะคะ ถึงเราจะชอบความเงียบความสงบ แต่พอมีเขาอยู่ด้วยกันแล้วก็รู้สึกว่าบรรยากาศในห้องที่ต้องนอนสองคนดูมีชีวิตชีวาขึ้น
Q : รู้สึกว่าลำดับของคุณผันผวนมาก ๆ จากสเตจคัดเกรดได้ ห้าดาว แต่กลับตกรอบเพลงธีม แล้วก็ขึ้นมาได้ลำดับสี่ดาวอีกครั้งในสเตจล่าสุด ไม่ทราบว่าคิดเห็นต่อลำดับของตัวเองยังไงบ้าง แล้วผลลัพธ์ออกมาอย่างนี้คิดว่าตัวเองจะเข้าไปได้ถึงรอบไหนคะ
ณชา : บริษัทส่งฉันมาเป็นตัวแทน พวกเขาก็ตั้งเป้าไว้ว่าให้ได้ไฟนอลไลน์อยู่แล้วค่ะ (หัวเราะ) ฉันก็พยายามเต็มที่ในส่วนของฉัน ไม่ว่าจะตอนคัดเกรด เพลงธีม หรือ สเตจแรก แต่ความผิดพลาดบางครั้งมันก็เกิดขึ้นโดยที่เราควบคุมไม่ได้ เราก็แค่เรียนรู้ ทำความเข้าใจว่าเราพลาดเพราะอะไร แล้วก็ป้องกันไม่ให้ความผิดพลาดเกิดขึ้นซ้ำอีกค่ะ
Q : คิดว่าตั้งแต่เข้ามาในรายการนี้ได้เรียนรู้อะไรมากขึ้นไหม
ณชา : ตั้งแต่เด็กฉันถูกเลี้ยงมาภายใต้ครอบครัวที่พ่อแม่เอาใจใส่ เอาอกเอาใจมาก เหมือนเป็นดอกไม้ในแจกันอะไรประมาณนั้นค่ะ (หัวเราะ) อีกอย่างในฐานะเทรนนี่ SAS ถึงจะต้องฝึกหนักแต่โดยรวมก็ค่อนข้างราบรื่น พอได้เข้ารายการมาแล้วมีโจทย์ที่ท้าทายความสามารถอยู่ตลอด มีความกดดันที่ต้องแบกรับ ต้องปรับตัวภายใต้สถานการณ์ต่าง ๆ ที่ไม่คาดคิด แล้วก็ได้ทำงานร่วมกับคนหลากหลายมากขึ้น หลาย ๆ อย่างนี้ทำให้รู้สึกว่าเราได้พัฒนาขึ้นค่ะ
Q : ภาพลักษณ์คุณดูเหมือนสมบูรณ์แบบอยู่ตลอด มีเรื่องไหนที่เป็นเรื่องที่คิดว่าตัวเองไม่เก่งเอาเสียเลยบ้างไหมคะ
ณชา : เรื่องที่คิดว่าไม่เก่งเอาเสียเลย… อืม… ฉันมีน้องสาวอยู่คนนึงที่บางทีก็ชอบชวนเล่นเกมน่ะค่ะ … แต่พอฉันเล่นด้วยที่ไรก็จะถูกบ่นว่าเป็นคนที่เล่นเกมห่วยที่สุดในโลกประจำเลยค่ะ (หัวเราะ) แต่จริง ๆ แล้วก็ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองสมบูรณ์แบบนะคะ เพราะฉันเองก็เป็นแค่คนคนนึง ยังไงก็มีเรื่องผิดพลาด มีอคติอยู่แล้ว ฉันแค่ระวังที่จะแสดงออกมากกว่า ส่วนเรื่องความสามารถ ฉันก็ยังต้องพัฒนาอีกมาก ในรายการเองก็ยังมีคนอีกหลายคนที่เก่งและมีเอกลักษณ์ค่ะ
Q : อยากฝากอะไรถึงผู้ชมทิ้งท้ายไหมคะ
ณชา : อยากขอบคุณทุกคนมาก ทุกการสนับสนุนของคุณมีค่ามาก ๆ เป็นเหมือนขั้นบันไดช่วยส่งคนคนหนึ่งเข้าใกล้ความฝัน ดังนั้นฉันเองก็จะพยายามให้หนักมากขึ้นเพื่อสร้างผลงานให้เหมาะสมกับแรงสนับสนุนจากพวกคุณค่ะ
เบื้องหลังการแต่งเพลงและประวัติความเป็นมา
เจาะลึกเบื้องหลังการทำเพลง
อย่างที่เคยเกริ่นไปในทอล์คท้ายตอนเลยค่ะว่า เรามีความคิดที่จะทำเพลงประกอบนิยายตั้งแต่คิดพล็อตได้(เนื่องจากเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับวงการบันเทิงและสายงานเพลงพอสมควร) เป็นความต้องการส่วนตัวล้วน ๆ ที่ต้องการให้งานของเราดูมีชีวิตมากขึ้น
แต่นอกจากต้องการให้งานเราดูมีชีวิตแล้วเนี่ย จริง ๆ ก็อยากได้อะไรที่ช่วยจุดไฟในการเขียนของเราด้วยค่ะ เพราะก่อนหน้านี้มีนักเขียนบางท่านให้คำแนะนำมาว่า เอ้อ ถ้าอยากจะเขียนนิยายจบ ก็ลองคอมมิชภาพสิ … แต่ด้วยความที่เราเป็นคนที่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ฉะนั้นแค่คอมมิชภาพมันไม่พอค่ะ ! (ฮา)
เริ่มแรกที่ได้คุยกับสตูดิโอทำเพลง ทีมโปรดิวเซอร์ก็ให้คำปรึกษาดีมากเลยค่ะ ตอนนั้นเรายังเขียนได้แต่สองตอน อะไร ๆ ก็ยังไม่เข้ารูปเข้ารอย มีแค่พล็อตลอย ๆ ไปให้เขาว่าอารมณ์ประมาณนี้นะ เขาก็ตอบกลับมาว่า โอเค ไม่เป็นไร ระหว่างนี้ค่อย ๆ คิดไปด้วยกันได้ เพราะขั้นตอนการทำเพลงใช้เวลาประมาณหนึ่งเดือน
บรีฟแรกเราให้เขาคือ เราอยากทำสองเพลง
– เพลงแรก จะเป็นเพลงที่ตัวละครหลักเป็นคนเขียนขึ้นมาแล้วร้องในรายการแข่งขันไอดอล เวทีแรก ๆ (ฉะนั้นจะต้องสามารถตกคนได้ตั้งแต่แรก) แต่สตอรี่เพลงจะเป็นแนวเล่าประสบการณ์ของตัวเองที่ก้าวผ่านเรื่องร้าย ๆ มาได้ (ซึ่งเราก็ต้องเล่าสตอรี่ของตัวละครให้ทีมโปรดิวเซอร์ฟังเลยค่ะว่าเป็นมายังไง) หลังจากนั้นก็ส่งดนตรีที่อยากได้ไปคร่าว ๆ ซึ่งเป็นเพลงที่เป็นโซโล่เปียโนค่ะ
– เพลงที่สอง เพลงแนวไอดอล เพลงนี้ค่อนข้างบรีฟง่ายค่ะ เพราะเป็นเพลงธีมรายการแข่งขันไอดอล เราแค่ส่งเรฟแนวเพลงที่อยากได้ไปให้เขา เขาก็ถามกลับมาค่ะว่า รายการเรามีกิมมิกอะไร ชื่อรายการอะไร มีคำอะไรที่อยากได้ ตอนนั้นคำที่อยากได้ ก็มีไม่เยอะค่ะ บรีฟไปแค่ Starry เพราะชื่อรายการคือ StarryStage
พอสรุปความยากง่ายของเพลงแล้วก็ตกลงราคาเบื้องต้นค่ะ ซึ่งราคาสำหรับการทำเพลงเต็มเพลง เกรงว่ากระเป๋าจะฉีกไปหน่อย เลยตัดสินใจว่า โอเค อยากได้สองเพลงเลย แต่ละเพลงความยาวแค่ครึ่งเพลงก็พอ
หลังจากนั้นสัปดาห์นิด ๆ ทางทีมโปรดิวเซอร์ก็ส่งตัวอย่างดนตรี 20 วินาทีแรก ของแต่ละเพลงมาให้เลือกอย่างละ 2 ตัวเลือก เราใช้เวลาตัดสินใจอยู่หลายวันเลยค่ะ เพราะแค่ตัวอย่างก็ว้าวแล้ว ! ไม่อยากจะทิ้งอันไหนไปเลย สุดท้ายก็เลยถามความเห็นกับทางทีมโปรดิวเซอร์ว่าแต่ละคนคิดเห็นยังไงกันบ้าง ทีมโปรดิวเซอร์ก็แนะนำมาตามนี้เลยค่ะ
Solo demo 1 : มีความลึกซึ้งและ emotional กว่ามาก
Solo demo 2 : ฟังแล้วจะดูมีความหวังกว่า ติดหูกว่าเดโม่แรก เพราะใช้โน้ตซํ้าเยอะ แต่เดโม่แรกจะเล่าเรื่องได้เยอะกว่า
Idol Demo 1 : ดนตรีไม่เยอะ ไม่น้อยเกินไป ฟังแล้วมีความน่ารัก เหมือนอยู่ในเกม มีคอนเซปต์ชัด
Idol Demo 2 : มีความเป็นผู้ใหญ่กว่า ทำนองค่อนข้างติดไปทางอิเล็กโทร เหมือนเดินแฟชันโชว์
สุดท้ายเราก็เลือก Solo Demo 2 กับ Idol Demo 1 ค่ะ เพราะรู้สึกว่า Solo Demo 1 เศร้าบัลลาดไปหน่อย ส่วน Idol Demo 1 ติดหูเราตั้งแต่แรกเลยตัดสินใจเลือกความรู้สึกแรกค่ะ แหะ
ปัญหาหลังจากเลือก Demo ดนตรี
ตอนฟังดนตรีเดโม่เพลงธีมค่อนข้างมีข้อกังขาเยอะ เพราะเรากลัวว่าเพลงที่ออกมาจะดูเด็กเกินไป แต่เราอยากได้ความโตขึ้นมาหน่อย ไม่ให้หลุดจากโทนเรื่องและภาพประกอบ(ตอนนั้นภาพซานเจียสเก็ตซ์แรกจากนัดวาดเพิ่งส่งมาให้สด ๆ ร้อน ๆ เลยค่ะ) ทางทีมโปรดิวเซอร์ก็ให้ความมั่นใจกับเราว่ามันไม่ได้เด็กขนาดนั้น เราก็โอเค ไปต่อ
เฟสถัดมาจะเป็นช่วงพัฒนาดนตรีไปจนถึงท่อน Pre-chorus ค่ะ หรือท่อนก่อนถึงฮุค ช่วงนี้ไม่ติดอะไรเลยค่ะ เราก็ปล่อยให้ทีมโปรดิวเซอร์ทำงานตามที่เขาให้ว่าโอเคได้เลย เพราะเราก็วางใจว่ายังไงเขาก็เชี่ยวชาญมากกว่าเราอยู่แล้ว
ระหว่างที่ยังเรียบเรียงดนตรีอยู่ ก็จะมีทีมเขียนเนื้อร้องเข้ามารับช่วงต่อ
ตรงนี้เราค่อนข้างได้มีส่วนร่วมเยอะมาก ๆ โดยเฉพาะเพลงแรกที่เป็นเพลงประจำตัว แต่เราขอเล่าข้าม ๆ นะคะ เพราะถ้าลงรายละเอียด น่าจะเขียนรวมเล่มเป็นเรื่องสั้นได้ (ฮา) เพราะปรับเนื้อร้องกันมาเยอะมาก คอมเมนต์แต่ละทีแทบยาวเป็นหน้ากระดาษ เพราะต้องการให้ตรงกับอินเนอร์ของณชามากที่สุด จึงเกิดมหากาพย์แห่งการแก้ แก้กันตั้งแต่ดนตรีมีแค่พรีคอรัสจนดนตรีเรียบเรียงจบฮุค ประมาณ 8 รอบ ได้เลยค่ะ กว่าจะฟันธงไฟนอล
ส่วนเพลงธีม ถึงจะดูมีข้อกังขาในช่วงพัฒนาดนตรี แต่พอได้เนื้อร้องมาแล้วก็รู้สึกเข้าหู เลยไม่ค่อยมีปัญหาอะไรเท่าไรค่ะ เนื้อร้องของเพลงนี้จำได้ว่าแก้น้อยมาก ๆ
นั่นล่ะค่ะ หลังจากผ่านการเคี่ยวเข็ญกับดนตรีและเนื้อร้องมาได้ เดโม่น้อง ๆ ทั้งสองเพลงจึงคลอดออกมาเป็นรูปเป็นร่าง !
แต่ปัญหาหลังจากนั้นคือ… ใครจะมาร้องเพลงให้เราล่ะ ?
เกริ่นก่อนว่าหลังจากต้นฉบับผ่านการพิจารณาจากสำนักพิมพ์ เราก็เอาเดโม่เพลงไปให้พี่ ๆ บรรณาธิการฟังแล้ว ฉะนั้นพอถึงจุดที่ต้องหานักร้อง ตรงนี้ก็เริ่มปรึกษากับทางลิลลี่เฮ้าส์แล้วค่ะว่าเลือกใครดี เราก็ไม่ค่อยรู้จักยูทูปเบอร์ไทยเท่าไรด้วย
ช่วงนั้นก็บังเอิญยูทูปรันเพลง คนละฝั่ง ของคุณ JeanHZ ขึ้นมา เราก็แบบ…ว้าว ! ใครเนี่ย เสียงเพราะมาก ! ฟังแล้วตกหลุมรักเลยค่ะ แบบว่าเป็นโทนเสียงที่ตามหา หลับตาฟังแล้วก็รู้สึกสวยสุด ๆ
ส่วนอีกคนนึง…โชคดีมาก ๆ เลยค่ะที่คุณ Aisha ยอมรับงานนี้ เราพอจะรู้ว่าเขาเป็นวีทูปเบอร์ไทยคนนึงที่มีชื่อเสียงมาก แล้วหลังจากที่เราได้ลองฟังเพลงในช่องเขาแล้วก็รู้สึกว่าเสียงเขาน่ารักดีค่ะ ชอบมาก บุคลิกก็ดูซน ๆ น่าเอ็นดูดี อยากลองจีบมาร่วมโปรเจ็กต์สักหน่อย
เราเลยส่งช่องคุณ JeanHZ กับ Aisha ไปให้ทางลิลลี่เฮ้าส์ช่วยเลือก แล้วก็ประสานงานให้ แน่นอนว่าถ้าไม่ได้การประสานงานจากลิลลี่เฮ้าส์ นักเขียนตัวเล็ก ๆ อย่างเราคงไม่ได้มีโอกาสร่วมงานกับคนเยอะขนาดนี้เลยค่ะ หลังจากนั้นทุกวัน จากที่ไม่ค่อยได้ฟังเพลงไทย…ก็กลายเป็นเปิดเพลงของทั้งคู่ฟังทุกวันจนกลายเป็นแฟนเพลงไปแล้วค่ะ… (ฮา)
ส่วนขั้นตอนการอัดเสียงหลังจากนั้นก็ค่อนข้างราบรื่นเลยค่ะ ด้วยความเชี่ยวชาญของทั้งคู่ที่ทุ่มเทให้ความร่วมมือกับเพลงเรามาก ๆ ระหว่างอัดเสียง ทั้งคุณ JeanHZ และคุณ Aisha ก็ช่วยออกไอเดียเสริมจุดนั้นจุดนี้ เช่น แอดลิบ หรือ จุดคอรัสต่าง ๆ ทำให้สุดท้ายจากเพลงที่เป็นแค่เดโม่ ก็เสร็จสมบูรณ์จนได้ !
มาฝึกร้องเพลงร่วมกัน!!
Starry Girl by Aisha & JeanHZ Ost. Do You Ship? ใครชิปกันคู่นั้นเขาแต่งกันแล้ว | lily house.
เนื้อเพลง
hey girls (yeah) get on the stage have some fun
ready let’s shine!
[v]
ไม่มีอะไรให้กลัวตอนนี้ เข้ามาฟังเพลงนี้สิ (i like it!)
ระวังจะโดนตกนะ oh please (do you like me? like me like me)
แสงไฟ ส่องมา เป็นประกาย im starry girls ✨
ทุกทํานอง ที่ได้ร้อง im starry girls ✨
*[pre] Jean HZ (ร้องไลน์ตํ่า) AISHA (ร้องไลน์สูง)
คืนนี้มีดาวเป็นประกายสองแสงออกมา
มาลองเปิดใจกันได้ไหม (starry)
**[hook]ทุกทํานอง just follow your heart
now it’s time to be a star
เชื่อใจและ let’s get it start
ดูฉันเต้นและร้อง
***[post hook]i’m shining shining
shining shining 🥳🌟
shining shining✨
starry starry
i’m starry girls
[inst]
[*],[**],[***],[***]
ทิ้งอดีต (New Step) by JeanHZ Ost. Do You Ship? ใครชิปกันคู่นั้นเขาแต่งกันแล้ว | lily house.
เนื้อเพลง
[Hook]
ก้าวออกมา จากฝันร้ายที่ฉันไม่ยอมตื่น
ก้าวออกมา สู่เส้นทางที่ฉันได้เลือกเอง
เพียงแค่ ก้าวออกมา จากประตูเวลาบานนั้น
ที่เคยมีเธอในฝัน
จากนี้จะมีแค่ฉัน ที่ทิ้งให้เป็นอดีต
[Verse 1]
ถึงแม้ว่ามันจะดูยากสักเพียงไหน
สุดท้ายต้องพยายาม ผ่านมาแล้วก็ดี[เหลือเกิน/มากมาย]
ชีวิตที่เคยคิดว่าจะไม่เปลี่ยนไป
กลับกลายเป็น [สดใส/สว่างไสว]ขึ้นทุกวัน
[Pre Hook]
ขอบคุณเวลาที่คอยย้ำเตือน
ให้ฉันได้มายืนอยู่ตรงนี้
สิ่งดีๆที่มี ผลักดันให้ฉันได้เดินต่อไป
(เพราะฉันได้)
[Hook]
ก้าวออกมา จากฝันร้ายที่ฉันไม่ยอมตื่น
ก้าวออกมา สู่เส้นทางที่ฉันได้เลือกเอง
เพียงแค่ ก้าวออกมา จากประตูเวลาบานนั้น
ที่เคยมีเธอในฝัน
จากนี้จะมีแค่ฉัน ที่ทิ้งให้เป็นอดีต
อย่าลืมไปฟังเพลงของซานเจียและณชากันได้ที่:
ประวัตินักร้อง:


ทำความรู้จัก 2 ผู้ให้เสียงร้อง เพลง Starry Girl จากนิยายยูริ #ใครชิปกัน
.
เพื่อนๆ สงสัยกันไหมคะว่าเจ้าของเสียงร้องแสนไพเราะในเพลง Starry Girl คือใคร วันนี้แอดมินจะพามารู้จักกับทั้ง 2 ท่านเพิ่มเติม พร้อมชวนไปติดตามผลงานอื่นๆ ของพวกเขากันค่ะ
.
- Aisha ร้องเสียงตัวละคร ซานเจีย
Virtual Idol แสนน่ารักสดใสชื่อดังของไทยคนนึง ผู้มีเอกลักษณ์ที่ content แนวคอมเมดี้ สตรีมเกม รวมถึงยังมีความสามารถในเรื่องของการร้องเพลง Cover ทั้งเพลงอนิเมะ เพลงไทยและต่างประเทศ
🎥 ติดตามได้ที่ : https://youtube.com/@AishaChannel
.
- JeanHZ ร้องเสียงตัวละคร ณชา
เริ่มเป็น Youtube Music Creator มาตั้งแต่ปี 2018 มีแนวทางการร้องหลักๆ เป็นการร้อง cover เพลงจีนโบราณแปลเป็นภาษาไทย แต่ก็พร้อมที่จะเปิดรับและฝึกฝนแนวดนตรีใหม่ๆ ทั้งไทยและเทศ รวมถึงสร้างผลงาน Original ให้นักฟังได้ฟังเพลงที่หลากหลาย
🎥 ติดตามได้ที่ : https://youtube.com/@JeanHZ
ยังไม่จุใจเหรอคะ? นี่เลย Exclusive Sketch และ เรื่องราวกว่าจะมาเป็น Do you ship?











