ชีวิตของฉันค่อนข้างยากลำบาก ด้วยเพราะพ่อแม่เป็นคนยากจนไม่มีที่ดินทำกินเป็นของตัวเอง ดังนั้นอาชีพของครอบครัว จึงเป็นงานรับจ้างเสียเป็นส่วนใหญ่ เรื่องเงินทองบ้านช่องไม่ต้องคิดไม่มีอะไรเป็นของตัวเองเลยสักอย่าง
เมื่อมาถึงเรือนหลังงามที่ด้านหน้าเป็นโรงงานธูปหอมและโรงงานทอผ้าทำให้ฉันนึกเปรียบตัวเองกับคนที่มีทรัพย์สินมากมาย แต่ใช่ว่าอิจฉาเรียกว่าทึ่งในความสามารถมากกว่า โดยเฉพาะเจ้าของบ้านที่จะเป็นเจ้านายของฉันในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า
“นั่งบนเก้าอี้ ฉันไม่ได้เจ้ายศเจ้าอย่างอะไร” ผู้หญิงซึ่งคงไม่ต้องเดาว่าเป็นใครบอกกับพ่อแม่และตัวฉัน
“ไหว้คุณท่านเสีย มะปราง” นั่นเป็นชื่อของฉัน ซึ่งพ่อกับแม่เรียกแม่มะปรางเปรี้ยว เพราะความที่ซนมาตั้งแต่เด็ก แม้โตเป็นสาวก็ยังแอบซนโดยไม่ให้โดนดุ
“ไหว้จ้ะ นางฟ้า” มะปรางยกมือท่วมหัว แม่หันมาเห็นเข้าจึงหยิก
เข้าที่เอวทำเอาลูกสาวร้องเสียงหลง นางฟ้าคนที่มะปรางพูดถึง ส่ายหน้ากับความทะเล้นของเด็กสาวที่หน้าตาสะสวย แต่ดูมอมแมมไปสักหน่อย
“ถ้าจะเป็นนางฟ้า ฉันคงต้องตายก่อน”
“คุณจรัสคะ ฝ่ายออกแบบผลิตภัณฑ์ส่งงานมาแล้วนะคะ” ผู้หญิงคนหนึ่งเดินมาบอกกับแม่นางฟ้าของมะปราง
“ชื่อเหมือนผู้ชายเลย” มะปรางกระซิบบอกแม่ที่เงื้อมือทำท่าจะตีเข้าให้
“ผู้หญิงชื่อจรัสไม่ได้หรือไงกัน ซนเอาเรื่องเหมือนกันท่าทาง แล้วจะทำงานทำการอะไรได้ โตแต่อายุสินะ เราน่ะ”
“นางฟ้าอยากฟังเรื่องไหนล่ะจ๊ะ มีหลายเรื่อง” คนได้ยินหัวเราะกับความช่างพูดของหญิงสาวที่ชื่อมะปราง
“พี่ทั้งสองออกไปรอที่หน้าโรงงานนะ ผู้หญิงคนนี้จะเอาเงินไปให้ถึงจะไม่มีเงินมาคืน แต่คิดถึงลูกจะมาหาหรือพากลับบ้านก็ได้ ฉันไม่ว่า”
“ขอบคุณนะคะ คุณดาวจรัส” แม่ของมะปรางเอ่ยขอบคุณ เมื่อได้ยินชื่อดาวจรัสทำเอามะปรางตาโตเป็นไข่ห่าน
“เป็นนางฟ้าลงมาเกิดแน่ๆ ผิวขาวราวน้ำนมเลยค่ะ คุณเจ้าขา”
“ฉันไม่ได้บ้ายอ มะปรางออกไปส่งพ่อกับแม่แล้วค่อยกลับมาคุยกันว่าทำงานอะไรได้บ้าง” ดาวจรัสบอก มะปรางถึงกับลงไปนั่งกับพื้นและกราบที่เท้า ซึ่งดาวจรัสรีบขยับเท้าถอยห่างออกมาและแตะเบาๆ ที่หลังของมะปราง
“ฉันหายกลัวไปมากเลยจ้ะ คุณจรัสดูใจดี” มะปรางบอก
“ฝากลูกด้วยนะครับ” พ่อแม่ของมะปรางกล่าวลา แต่แรกดาวจรัส
คิดว่าคงจะร้องห่มร้องไห้ร่ำลากัน เพราะเคยมีพ่อแม่มาฝากลูกชายลูกสาวทำงานด้วยอยู่หลายครอบครัว ส่วนใหญ่เป็นเพราะการทำไร่ทำนาค่อนข้างยากลำบาก เพราะฝนฟ้าไม่ตกต้องตามฤดูกาล ชาวนาชาวสวนที่พึ่งพาน้ำจากธรรมชาติไม่ได้ผลผลิตอย่างที่ลงแรงไป ดังนั้นจึงนำลูกหลานมาทำงานในโรงงานเพื่อจะได้มีเงินไปจุนเจือครอบครัว
ดาวจรัสคิดอยู่เสมอว่า การต้องอยู่ห่างจากครอบครัวคงทำให้เด็กหนุ่มสาวคิดถึงบ้าน แต่ปากท้องของทั้งครอบครัวเป็นเรื่องสำคัญทำให้ต้องทิ้งบ้านมาทำงานข้ามจังหวัด แม้ถนนหนทางจะเจริญเดินทางได้สะดวกแต่เงินที่จะต้องใช้จ่ายเป็นค่าเดินทางก็ทำเอาคนทำงานหลายคนนานๆ ทีถึงจะได้กลับบ้าน พ่อแม่ของมะปรางขอรับเงินเดือนของลูกสาวล่วงหน้าไปถึง 2 ปี แต่ดาวจรัสจะจ่ายเงินจำนวนหนึ่งเอาไว้ให้มะปรางได้ใช้จ่าย ถือเป็นเงินพิเศษนอกเหนือจากเงินเดือนที่พ่อแม่รับไปหมดแล้ว
“อยู่บ้านทำอะไรบ้าง เราน่ะ” ดาวจรัสถาม เพราะอายุอานามของตัวเองห่างจากมะปรางค่อนข้างมาก
“ทำงานบ้าน ทำนา ทำสวน ปลูกผัก แต่เป็นงานรับจ้างจ้ะ”
“อยากลองทอผ้าดูบ้างไหม เผื่อมีฝีมือกลับบ้านไปจะได้มีงานทำที่บ้านไม่ต้องอยู่ห่างจากครอบครัว” ดาวจรัสยิ้มให้กับมะปรางที่จ้องมองไม่วางตา เพราะความงดงามบนใบหน้า แววตาที่ดูอ่อนโยนกับรอยยิ้มที่ทำให้รู้สึกอุ่นใจและปลอดภัย มะปรางสัมผัสได้ตั้งแต่แรกเห็น
“แล้วแต่คุณจะกรุณาเลยจ้ะ” หญิงสาวที่ดูเป็นเด็กกว่าวัยยามอยู่กับพ่อแม่ เมื่อห่างกันไปเพียงแค่ครู่กลับกลายมาเป็นหญิงสาวพูดจาไพเราะไม่ได้ดูทะเล้นเหมือนก่อนหน้า
“ตามคุณอุ่นไปดูที่พัก หากขาดเหลืออะไรขอที่คุณอุ่นได้เลย”
“ขอบคุณเจ้าค่ะ” น้ำเสียงฟังดูทะเล้นเล็กน้อย ดาวจรัสยิ้มๆ กับแววตาของหญิงสาวที่วาววับและดูสดใส
“ฉันไม่ใช่เจ้า ไม่ใช่นาย ฉันเป็นเพียงแค่ทำการค้า เธอไม่ต้องมาเจ้าคะ เจ้าขากับฉันหรอกจ้ะ” ดาวจรัสบอกกับมะปราง
“เป็นเด็กกว่าตั้งมากพูดเพราะๆ ไม่ดีหรือเจ้าคะ คุณเจ้าขา”
“เดี๋ยวได้โดนไม้เรียวกันบ้างนะ เจ้าคะ เจ้าขา” อุ่นเรือน ซึ่งเป็นคนดูแลคอยจัดการงานต่างๆ หรือเรียกว่าเป็นผู้จัดการก็น่าจะได้
“ไม่ดีกว่าเจ้าข้า” มะปรางหัวเราะเล็กๆ แต่เมื่อเห็นอุ่นเรือนทำหน้าดุรีบทำหน้าจ๋อยและเดินตามไปแต่โดยดี
“ท่าทางคุณอุ่นจะเหนื่อยล่ะ” ดาวจรัสยิ้มมองตามมะปรางที่ยังคงหันมายิ้มให้
มะปรางเป็นหญิงสาวหน้าตาดี แม้จะดูทะเล้นบ้าง แต่เหมือนเจ้าตัวอยากสร้างรอยยิ้มให้กับคนที่อยู่รอบข้าง แม้แต่อุ่นเรือนยังยิ้มระหว่างที่สาวเจ้าเจื้อยแจ้วจำนรรจา หากมีชายใดได้พบคงตกหลุมรักได้ไม่ยากนัก ดาวจรัสมักจะดูแลคนที่มาทำงานด้วยเหมือนญาติ เหมือนลูกหลานไม่ได้แบ่งแยกอะไรนัก แต่จากลักษณะท่าทางที่ดูน่าเกรงขามทำให้ผู้คนหวั่นเกรงเหมือนดั่งพ่อแม่ของมะปรางที่ถึงกับนั่งลงที่พื้นตอนมาถึง
เขียนโดย: ลำเนา
จำนวนหน้า: 311
ขนาด: A5
ของแถม: โปสการ์ด
ทดลองอ่าน: คลิ๊ก
รีวิว
ยังไม่มีบทวิจารณ์