สวัสดีค่ะนักอ่านทุกท่าน ต้องขอบอกก่อนเลยว่าส่วนตัวแล้วเราค่อนข้างชอบอ่านนิยายที่มีเนื้อหาแฟนตาซีค่ะ(ไบแอสเป็นพิเศษ) ส่วนมากที่เรามักเจอจะเป็นการย้อนอดีตที่ไม่ไกลมากไม่ก็เป็นเนื้อหาเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของชาติอื่นซะส่วนใหญ่ แล้วบังเอิญได้ไปเจอกับนิยายเรื่องนี้เข้าที่เป็นเนื้อหาสมัยอีทาสในเรือนเบี้ย ซึ่งคำเปรยเรื่องที่ตัวผู้แต่งเองเกริ่นเนื้อหาไว้ก็ทำให้เราตื่นเต้นไม่รอช้าที่จะรีบเข้าไปอ่านเลยค่ะ
“คำสัญญาที่ให้ไว้ก่อนตาย
คนหนึ่งเกิดใหม่พร้อมคำสัญญา
อีกคนเกิดมาพร้อมชีวิตใหม่”
“ดอกรัก”หรือลักษิณา หญิงสาวที่ตั้งแต่ผ่านช่วงอายุ18ปีมาก็มักจะฝันเลือนลางถึงใครบางคนในสมัยอดีตที่เห็นหน้าค่าตาไม่ชัดเจนแถมยังเรียกตัวเธอเองที่มีสถานะในฝันเป็นทาสในเรือนเบี้ยด้วยชื่อ ‘อีชบา’ แต่เมื่ออายุย่างก้าวเข้าสู่ปีที่25ปีเบญจเพศ หน้าตาปริศนานั้นก็ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆจนเจ้าตัวถึงกับตะลึง เพราะบุคคลนั้นดันมีหน้าตาเหมือนกับ “คุณฟ้า”หรือดารารันต์ ท่านประธานสาวเจ้าของโรงแรมชื่อดังที่เธอกำลังทำงานเป็นเซฟครัวอาหารไทยอยู่ทุกระเบียบนิ้ว ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ที่เริ่มจากการที่เชฟสาวคอยทำอาหารส่งเป็นเสบียงไปให้เจ้านายสาวผ่านผู้ช่วยหนุ่มที่ชื่อพลพล แม้ทุกอย่างจะเริ่มพัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้นหากความทรงจำและความรู้สึกในอดีตที่มีต่อ ‘คุณหนูเพียงฟ้า’ ก็ยังทำให้ดอกรักคิดไม่ตกจนถึงขั้นเอาไปปรึกษาพิณเพื่อนรักที่กำลังหาว่าเธอทำงานจนเพี้ยนไปแล้วหรอ
แต่หยุดก่อนค่ะทุกคน หลายๆคนที่อ่านมาถึงจุดนี้เหมือนเราอาจจะตีความไปแล้วว่านิยายเล่มนี้คงเป็นพล็อตเบสิคที่เริ่มจากการที่ใครสักคนระลึกชาติได้ซึ่งในที่นี้คงเป็นดอกรักนั่นเอง รวมกับคำเปรยเรื่องที่อ่านผ่านๆก็คงมีใครฝังใจจำคำสัญญาที่ชาติหน้าเราจะเกิดมาเจอเพื่อรักกันอะไรทำนองนั้น(ฮา) แรกเริ่มเราก็คิดประมาณนั้นค่ะจนผู้แต่งเปิดเผยอีกตัวละครสำคัญออกมาที่มีชื่อว่า
“โรส”หรือโรสิตา เจ้าของโรมแรมคู่แข่งแต่ดันเป็นรุ่นน้องคนสนิทของคุณฟ้าที่เข้าไปพัวพันกับอดีตชาติของดอกรักในฐานะ ‘ลำเจียก’ เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อที่มีโอกาสได้นัดกินข้าวกับรุ่นพี่เจ้าของโรมแรม ทันทีที่โรสได้ตักอาหารไทย(แน่นอนว่าต้องเป็นฝีมือดอกรัก)เข้าปากไปคำแรกก็อร่อยจนน้ำตาไหลให้กับรสชาติที่ทำให้ความรู้สึกถึงการรอคอยอะไรบางอย่างที่เธอเฝ้ารอมาเนิ่นนานได้สิ้นสุดลงแล้ว ถึงขั้นต้องเรียกเจ้าของฝีมือนี้จากห้องครัวมาเพื่อเข้าพบเลยทีเดียวแต่โชคร้ายที่ห้องครัวกำลังยุ่งมากๆทำให้ทั้งคู่คลาดกัน แต่แน่นอนว่าก็ต้องมีเหตุการณ์ที่ทำให้โรสได้พบกับดอกรัก ก็เกิดความถูกตาต้องใจดอกรักตั้งแต่แรกเห็น โรสที่พยายามเข้าหาดอกรักแม้คุณเชฟจะเริ่มมีใจให้กับโรสหากก็ยังคงสงวนท่าทีไว้ไม่กล้าเปิดใจให้กับอดีตเพื่อนรักเพราะใจยังคงยึดติดกับคำสัญญาที่มีให้แก่คุณหนูเพียงฟ้าแถมคุณดารารันต์เองก็ดูจะมีใจชอบพอให้กับเจ้าตัวอีก คนนอกอย่างพิณที่มองเข้ามาในความสัมพันธ์นี้แล้วก็ปวดหัวไม่แพ้กับคนอ่าน
“ไม่ใช่ว่าคำสัญญาไม่สำคัญอะไรหรอกนะ แต่มันจะสำคัญอะไรถ้าจำได้แค่คนเดียว”
ความรู้สึกเราตอนที่กำลังอ่านจนเกือบจะจบเล่มแล้วแต่ก็ยังไม่เห็นทางออกของรักสามเศร้านี้ก็ได้เหลือบมองจำนวนตอนที่เหลืออยู่อีก2-3ตอนแล้วก็เอาแต่คิดนะคะว่าคนเขียนจะแก้ปมนี้ยังไงเนี่ย เดี๋ยวในตอนนี้ใจดอกรักก็เทไปหาคุณโรสอีกสองตอนผ่านไปก็มาหาคุณฟ้า อะไรจะตรงกับคอนเซปเพลงสองรักของวงซีลขนาดนี้ จนได้อ่านถึงไอ้2-3ตอนสุดท้ายเนี่ยแหละค่ะถึงกับเห้ย! บทสรุปทำไมมันหักมุมอารมณ์เหวี่ยงเราไปมาอย่างนี้กันเนี่ย ปูทางปัญหาความสัมพันธ์คาราคาซังขนาดนี้มาเพื่อฉากเฉลยนี้เลย5555555555 ด้วยสไตล์การใช้ภาษาและพล็อตที่ผู้แต่งสร้างสรรค์ขึ้นมาทำให้เรารู้สึกอิ่มเอมไปกับเนื้อเรื่องจนถึงขั้นไม่หลับไม่นอนไม่วางหนังสือเลยทีเดียวค่ะ ความรู้สึกหลังอ่านจบก็ค่อนข้างประทับใจในระดับนึง เป็นนิยายดีๆอีกเรื่องที่ควรค่าแก่การอ่านค่ะ
ปล.หลังอ่านเรื่องนี้จบขอให้ทุกท่านย้อนกลับไปอ่านคำเปรยเรื่องใหม่กันอีกครั้งนะคะ 😉
น่าอ่านมากค่ะ แต่ไม่ทัน ;_;