“ทำเป็นพูดดี ปล่อยให้คุณอยู่คนเดียวห่อเหี่ยวหัวใจมาตั้งหลายปีเป็นผู้ใหญ่ที่ใจร้ายมาก ปรายน่ะ” แม่นายใจเดียวบ่นพึมพำ
“เวลางอนน่ารักมาก รู้ตัวไหม” ปรายฝนอมยิ้มจ้องมองคนที่กลับมานั่งมองไปยังความเขียวชอุ่มของต้นไม้ใบหญ้า
“รู้สิ คนบอกเยอะแยะไป” แม่นายใจเดียวอมยิ้ม
“เยอะแยะน่ะใครที่ไหน ไม่บอกปรายโกรธจริงๆ นะ” ปรายฝนพูดดุ
“ตัวเองน่ะ ขี้หึง รู้ตัวไหม” แม่นายใจเดียวหันมามองดูปรายฝนที่ทำหน้าบึ้งก่อนจะหันมาแลบลิ้นให้แม่นายใจเดียวที่ถึงกับหัวเราะออกมา
ปรายฝนถึงแม้จะเปลี่ยนไปบ้าง แต่ความน่ารักกลับมีให้เห็นมากขึ้น ความช่างพูด ช่างหยอกเย้าทำให้แม่นายใจเดียวยังคงนั่งยิ้ม โดยแกล้งทำเป็นไม่ได้สนใจคนที่ยังคงนั่งหน้างออยู่
“ปรายงอนไม่คิดจะง้อเลยหรือไงเนี่ย” ปรายฝนพูดขึ้น หลังจากคนที่นั่งอยู่ข้างๆ นั่งนิ่งเหมือนไม่ได้สนใจอะไรเลย
ปรายฝนมองสบตากับคนที่หันมายิ้มๆ ให้ คำถามไร้ซึ่งคำตอบแต่รอยยิ้มกับแววตาที่แสนอบอุ่นทำให้ทั้งสองคนเลือกที่จะนั่งอยู่เงียบๆ ดื่มด่ำความสุขกับบรรยากาศดีๆ ที่อยู่รอบตัว
“อาบน้ำให้หน่อยสิ นะ” แม่นายใจเดียวพูดขึ้นลอยๆ ปรายฝนเบี่ยงหน้าแอบยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ใจจริงอยากจะร้องกรี๊ดออกมาที่ได้ยินการเชื้อเชิญให้อยู่ใกล้ชิด
“ไม่เอาล่ะ หนาวจะตาย”
“คุณมีอ้อมกอดอุ่นๆ นะ ไม่หนาวหรอก” แม่นายใจเดียวหันมายักคิ้วล้อปรายฝนที่เบ้ปากให้เล็กน้อย
“ไม่เจอแค่สองสามปี ร้ายขึ้นนะคะ”
“แล้วยังรักไหม” น้ำเสียงเรียบนิ่งที่ได้ยินทำเอาใจไปตกอยู่ที่ตาตุ่ม
“แม่นายล่ะ ยังรักปรายไหม” ปรายฝนถามกลับ
“คำพูดใครๆ ก็พูดออกมาได้ แค่คำๆ เดียว แต่คุณอยากแสดงให้ปรายเห็นในทุกๆ วัน เริ่มตั้งแต่วันนี้เลย ไปอาบน้ำกัน” จู่ๆ แม่นายใจเดียวก็ลุกขึ้นยืน ยื่นมือให้ปรายฝนที่ขมวดคิ้วเพราะไม่รู้ว่า เจ้าของไร่คิดอะไรอยู่
กันแน่
“ไม่ทานมื้อเย็นก่อนหรือ” ปรายฝนถาม แต่ยื่นมือไป ซึ่งเจ้าของไร่กระชับเล็กน้อยและพาเข้าไปในห้องทันที
อ้อมกอดของแม่นายใจเดียวทำให้คำถามที่มีอยู่หายไปในพริบตาไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงได้อยากอยู่ใกล้ชิดด้วยนัก ทุกครั้งที่จับปากกาเขียนไปรษณียบัตรมีเรื่องราวมากมายที่อยากเล่า แต่เลือกเพียงแค่หนึ่งบรรทัดซึ่งกลั่นกรองออกมาจากหัวใจ โดยเฉพาะฉบับสุดท้ายที่คล้ายตัดขาดแบบไม่มีคำอธิบายใดๆ แต่ผู้หญิงที่กำลังกระชับอ้อมกอดก็ไม่มีคำถามอะไรเลย ความอบอุ่นแผ่ซ่านไปทุกอณูของเรือนกาย ปรายฝนยิ้มๆ เพราะหากคนที่จูบเล็กๆ ไปที่ไหล่ออดอ้อนมีหวังคงได้ถอดเสื้อผ้าออกแน่นอน เสียงหัวเราะคิกคักทำให้แม่นายใจเดียวยิ้มออกมา
“คิดอะไรทะลึ่งอยู่ใช่ไหม เราน่ะ” แม่นายใจเดียวพูดคล้ายดุ
“ไม่ต้องมาพูดเลย ไอ้รอยยิ้มมุมปากที่เห็นน่ะ ไม่ได้คิดอะไรทะลึ่งๆ เลยว่างั้น” ปรายฝนพูดยิ้มๆ ก่อนจะขยับเข้าใกล้ทาบทับริมฝีปากเบียดชิดรอจนแม่นายใจเดียวขยับเบียดชิดเข้าหา
“บ้าใครจะคิดอะไรทะลึ่งอย่างนั้น” แม่นายใจเดียวหัวเราะ
“น่ะ โกหกบาปนะ จะบอกให้” ปรายฝนพูดขึ้น
“คิดนิดหนึ่ง” แม่นายใจเดียวยิ้มอายๆ
“ปรายคิดไปไกลมาก อ้อนอีกนิดจะถอดเสื้อผ้าแล้วเนี่ย” ปรายฝนหัวเราะคิกคักอีกครั้ง แต่คนที่จ้องมองอยู่ทำตาลุกวาวทำให้ต้องหลบสายตาและออกอาการเขินอาย แม่นายใจเดียวยิ้มน้อยๆ กับท่าทางเขินอายที่แสนจะน่าเอ็นดูจึงขยับเข้าแนบชิดให้มากขึ้น
“กินเด็กดีกว่า งดมื้อเย็น” แม่นายใจเดียวยิ้มจ้องมองแววตาทะเล้นของปรายฝนที่ขมวดคิ้วทำท่าคิด
“อย่ามายั่วนะ เดี๋ยวเถอะ” ปรายฝนแลบลิ้นล้อมองดูแม่นายใจเดียว แววตาคู่ที่กำลังจ้องมองอยู่จู่ๆ ทำให้น้ำตารื้นขึ้นมา เพราะรู้ใจตัวเองดีว่าไม่ว่าจะเรื่องอะไร หัวใจของตัวเองนั้นยอมทุกอย่าง หรือเรียกได้ว่า แพ้ราบคาบ ยิ่งความช่างหยอกเย้าซึ่งไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน ยิ่งทำให้หญิงสาวที่สูงวัยกว่ามีเสน่ห์มากขึ้น หากใครจะมาพูดว่าเป็นเด็กหลงผู้ใหญ่ ปรายฝนจะยิ้มและพยักหน้าแสดงออกว่าเห็นด้วยกับคนๆ นั้น
“แน่สิ ผู้ใหญ่น่ารักขนาดนี้ จะไม่ให้หลงยังไงไหว” ปรายฝนอมยิ้มเมื่อแม่นายใจเดียวกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นอีก แต่เสียงเคาะประตูห้องที่ดังขึ้นทำให้ปรายฝนหัวเราะออกมา เมื่อเห็นแม่นายใจเดียวทำหน้างอ
“เฮ้อ เสียงเคาะประตูช่วยเอาไว้ได้” ปรายฝนจุมพิตเล็กๆ ก่อนจะดันหลังให้เจ้าของห้องออกไปดูว่าใครกันที่มาและมีหวังคงได้โดนดุแน่ๆ


เขียนโดย: ลำเนา

จำนวนหน้า: 308

ของแถม: Postcard

ทดลองอ่าน: คลิ๊ก

 

รีวิว

ยังไม่มีบทวิจารณ์

เฉพาะลูกค้าที่เข้าสู่ระบบ และเคยซื้อสินค้าชิ้นนี้แล้วเท่านั้น ที่เขียนบทวิจารณ์ได้

© 2021 lily house.
LINE LOGO SVG